ประเภท : Boy Love Series / Romantic
ออกอากาศ : ศุกร์ 5 ก.ค. - 23 ส.ค. 2567
ช่องทางการรับชม : ONE31
จำนวนตอน : 8
ผู้กำกับ : ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์
บทซีรีส์ : กนกพรรณ อรรัตนสกุล / อิสราภรณ์ คุณติสุข / ไอรีน อินสด
ควบคุมบทซีรีส์ : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
ควบคุมการผลิต : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา , วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

                                            ปลาวาฬ นายแบบหนุ่มสุดหล่อเรียนจบจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มีหุ่นสุดเป๊ะ ซิกซ์

แพ๊กสุดแน่นที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องหลงใหล ปลาวาฬเป็นคนชอบกินผัดกะเพรามาก หากรู้ว่าร้านไหนอร่อยต้องตามไปกินให้ได้ ยิ่งกินยิ่งติดเป็นนิสัย พอทำงานมากก็กินเยอะขึ้น ปลาวาฬก็ไม่มีหุ่นสุดเนี้ยบเหมือนเดิม จะรับงานถอดเสื้อเหมือนเดิมก็ไม่กล้า กลายเป็นว่างานที่มีน้อยลงเรื่อย ๆ ด้วยเห็นว่าปลาวาฬงานไม่ยุ่งและชอบกินกะเพรา เอเจนซี่จึงส่งงานชิ้นใหม่อันแสนประหลาดให้กับปลาวาฬ

เมธัส เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่เครือเมธัสกรุ๊ปต้องการที่ดินผืนใหญ่ในการสร้าง

คอนโดมิเนียม ติดอยู่แต่ว่ามีห้องแถวห้องหนึ่งไม่ยอมขายไม่ว่าจะเสนอเงินให้สูงเท่าไหร่ ห้องแถวดังกล่าวเป็นร้านอาหารชื่อ กะเพราร้านนี้ไม่มีถั่วฝักยาว โดยมีเจ้าของเป็น เชฟโอบ สุดหล่อที่เพิ่งไปแข่งขันในรายการทำอาหารจนได้รางวัลมา

เชฟโอบกำลังจะเซ้งร้านอาหารเพื่อย้ายทำเลใหม่ แต่มีเงื่อนไขว่าผู้สืบทอดจะต้องรักการ

ทำอาหารจริง พร้อมเข้ารับการทดสอบที่ร้านอย่างต่อเนื่อง และห้ามขายตึกนี้เด็ดขาดหลังเซ้งร้านแล้ว ปลาวาฬจึงต้องปลอมตัวเข้าไปเป็นสมัครเป็นผู้สืบทอดของร้านที่มีผู้สมัครทั้งหมด 10 คน แต่ละคนต้องเริ่มต้นฝึกงานครัวตั้งแต่เริ่มต้น ล้างจาน หั่นผัก โดยมีเชฟโอบผู้เข้มงวดคอยจ้องจับผิดอยู่ในทุกกระบวนการ

ปลาวาฬได้เจอกับเพื่อนที่มาสมัครเป็นผู้สืบทอดด้วยกันที่คุยกันถูกคอคือ เกลือ ที่มักจะ

แต่งตั้งตัวเองว่าเชฟเกลือเสมอ กระบวนการการคัดเลือกผู้สืบทอดเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้สืบทอดต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมครัวทุกวัน สลับคิวกันไปจ่ายตลาด ตกบ่ายก็ต้องมาเตรียมอาหารสำหรับเสิร์ฟ Chef’s Table ในรอบเย็น ร้านของเชฟโอบดังมาก ยิ่งคนรู้ว่าจะปิดคนยิ่งเยอะ ร้านแทบแตกทุกวัน ผู้สืบทอดก็ทยอยลาออกเพราะทนงานหนักไม่ไหว

ปลาวาฬทำงานหนักมากจนวันหยุดต้องแวะไปหา เจเจ เพื่อนนักกายภาพบำบัดชาย ให้

คอยช่วยจัดการกล้ามเนื้อและลดอาการบาดเจ็บจากการทำงานหนักให้ เจเจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ปลาวาฬทำเพราะคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง แต่ปลาวาฬก็คิดว่ามันไม่ใช่สิ่งเสียหายอะไร อีกอย่างงานนายแบบก็ไม่ยั่งยืน หากปลาวาฬทำสำเร็จ ปลาวาฬก็ตั้งใจจะเอาเงินค่าจ้างที่ได้มาเป็นทุนในการเปิดฟิตเนสของตนเอง

ยิ่งเวลาผ่านไป ผู้สมัครมาเป็นผู้สืบทอดก็เหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ในกลุ่มผู้สืบทอดที่เหลืออยู่ ปลาวาฬกับเกลือดูมีวี่แววจะได้รับเลือกมากที่สุด เกลือมีจุดเด่นตรงความสามารถในการทำอาหาร เรียนรู้ได้เร็ว ส่วนปลาวาฬมีจุดเด่นด้านความหลงใหลในอาหาร ตั้งหน้าตั้งตาชิมทุกจาน โดยเฉพาะผัดกะเพราที่ปลาวาฬหลงรักฝีมือเชฟโอบมาก กินทั้งเช้ากลางวันเย็น ระหว่างทำงาน ปลาวาฬกับเชฟโอบก็ใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เพราะปลาวาฬขอย้ายเข้ามาพักที่ร้านเลย ในขณะเดียวกันปลาวาฬก็สนิทกับเกลือมากเช่นกัน เพราะช่วยเหลือกันและกันเสมอ

วันหนึ่งในขณะที่ร้านปิดไปแล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาเชฟโอบ ถึงแม้ว่าเชฟโอบจะดูไม่พอใจ แต่ก็เปิดร้านต้อนรับและทำอาหารให้กิน ปลาวาฬไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยแต่ก็แอบฟังอยู่เงียบ ๆ ผู้หญิงคนนั้นชื่อ ข้าวสวย เป็นแฟนเก่าของเชฟโอบที่เกือบจะได้แต่งงานกัน แต่ข้าวสวยเป็นคนใจอ่อนกับครอบครัว มีเงินเท่าไหร่ก็ส่งให้พ่อแม่จนหมด กลายเป็นสภาพการเงินในชีวิตคู่พังไปด้วย สุดท้ายทั้งคู่เลยเลิกกัน วันนี้ข้าวสวยแค่กลับมาบอกว่ากำลังจะแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้แล้ว เชฟโอบรับบัตรเชิญและรับปากว่าจะไปร่วมงาน

หลังจากข้าวสวยขอตัวลากลับไป เชฟโอบก็กินเหล้าเมามาย ปลาวาฬเห็นท่าไม่ดีก็เข้ามาเตือนว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพราะต้องทำงาน เชฟโอบไม่ตอบแต่ลากปลาวาฬไปยังชั้นบนของห้องแถวที่ปิดไว้ตลอด ภายในเป็นบาร์ร้างขนาดเล็ก เชฟโอบลงมือทำขนมหวานกรานิต้า ค็อกเทล นั่นเป็นครั้งแรกที่เชฟโอบลงมือทำขนมหวาน เพราะปรกติเชฟโอบไม่เคยทำขนมหวานเลย เชฟโอบให้ปลาวาฬชิมขนมหวาน หลังจากนั้นทั้งสองก็จูบกัน เชฟโอบเมาพับหลับไป วันรุ่งขึ้นเชฟโอบก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมธัสที่กำลังรุ่งเรืองในธุรกิจถึงขีดสุด ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบกะทันหัน ร่างกายชาครึ่งซีกและล้มไปในวันหนึ่ง เมธัสเข้ารับการรักษาจนอาการดีขึ้น แต่การใช้ร่างกายด้านขวาก็ยังไม่ปรกติดี เมธัสต้องเข้ารับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องจนทำให้พบกับเจเจ เมธัสที่เคยเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจก็โวยวายจนเปลี่ยนนักกายภาพบำบัดไปหลายคน แต่เจเจกลับนิ่ง ดุ เคร่งครัด แต่ก็ให้กำลังใจเมธัสอย่างที่คนอื่นไม่เคยทำ เมธัสสยบให้กับเจเจและเริ่มต้นรักษาตัวอย่างจริงจัง ระหว่างนั้นก็เกิดความรู้สึกดีต่อกันขึ้นเรื่อย ๆ

ผู้สืบทอดของเชฟโอบเหลือกันอยู่เพียง 3 คน คือ ปลาวาฬ เกลือ และเพื่อนอีกคน ยิ่งคนเหลือน้อย บรรยากาศการทำงานก็ยิ่งเครียด โดยเฉพาะปลาวาฬกับเกลือที่เป็นเหมือนทั้งเพื่อนสนิทและคู่แข่งในเวลาเดียวกัน เชฟโอบเริ่มมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกับเกลือบ่อยขึ้น เมื่อปลาวาฬอยู่กับเกลือ เชฟโอบก็มักแสดงอาการไม่พอใจ เช่นเดียวกันกับเมื่อปลาวาฬอยู่กับเชฟโอบ เกลือก็มีอาการไม่ปรกติเช่นกัน

เกลือสารภาพรักกับปลาวาฬอ้อม ๆ ในวันหนึ่ง ปลาวาฬปฏิเสธเพราะมองเกลือว่าเป็นเพื่อนกันมาโดยตลอด หลังจากอกหักเกลือก็เสียศูนย์ในการทำอาหารไปเลย เมื่อวันตัดสินครั้งสำคัญมาถึงด้วยการทำผัดกะเพรา ปลาวาฬที่ไม่ได้ทำอาหารเก่งมากก็สามารถทำได้รอด เพราะชอบกินเมนูนี้บ่อยๆ แต่เกลือซึ่งน่าจะเป็นมือวางอันดับหนึ่งกลับคิดอะไรไม่รู้ถึงใส่ถั่วฝักยาวลงไปด้วย แน่นอนว่าดูเหมือนปลาวาฬจะชนะแน่ แต่เชฟโอบก็ยังไม่ตัดสินชัดเจน

คืนนั้นเชฟโอบส่งข้อความให้ปลาวาฬไปเจอกันอีกครั้งที่บาร์ลับด้านบน คราวนี้เชฟโอบทำบานอฟฟี่ให้ปลาวาฬกิน นั่นเป็นเวลาที่พิเศษ จนเชฟโอบถามปลาวาฬว่าเป็นคนที่ถูกส่งมาจากเมธัสกรุ๊ปใช่ไหม ปลาวาฬอํ้าอึ้งไป แต่ก็ยอมรับความจริงไปในที่สุด เพราะตนเองก็เผลอรักเชฟโอบไปแล้วและไม่อยากทำลายความฝันของอีกฝ่าย เชฟโอบเดินออกไปโดยไม่ถามอะไรต่อ วันรุ่งขึ้นมีจดหมายวางอยู่ในร้านว่า

ปลาวาฬได้รับเลือกให้เซ้งร้านต่อจากเชฟโอบ และเชฟโอบก็หายตัวจากร้านไปเลย

ปลาวาฬไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขายตึกให้เมธัสตามสัญญา แต่นั่นก็ทำให้ปลาวาฬรู้สึกผิดมาก ปลาวาฬหนีไปนอนค้างบ้านเจเจเพราะอยู่คนเดียวทำให้ฟุ้งซ่าน เจเจเองก็เพิ่งลาออกจากงานเหมือนกัน เพราะเมธัสที่อาการดีขึ้นเริ่มเจ้ากี้เจ้าการ และแสดงออกถึงความรักอย่างออกนอกหน้า เจเจจึงถูกกดดันอ้อม ๆ ให้ลาออกจากงาน เพราะถ้าขืนยังอยู่จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับวิชาชีพและผิดจรรยาบรรณ

ปลาวาฬปรึกษาเจเจว่าจะทำอย่างไรดีเรื่องเชฟโอบ เพราะรู้ตัวว่าชอบเชฟโอบไปแล้ว แต่ตอนนี้เชฟโอบหายไปไหนก็ไม่รู้ เจเจจึงเสนอให้เปิดร้านกะเพราขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อกะเพราร้านนี้ไม่มีถั่วฝักยาวเหมือนเดิม เพราะถือว่าได้รับสิทธิการเซ้งอย่างถูกต้องแล้ว โดยเจเจเองก็เข้าไปช่วยที่ร้านด้วย เพราะต้องการหยุดพักงานเก่า ๆ ไว้สักพัก ตอนแรกการเปิดร้านเป็นไปอย่างสนุกมาก เพราะลูกค้าที่เข้ามาถูกใจฝีมือของปลาวาฬ แต่เมื่อมีคนรีวิวมากขึ้น และมีคนรู้ว่าปลาวาฬเป็นผู้สืบทอดของเชฟโอบมากขึ้น ปลาวาฬก็กดดัน ทำให้ทำอาหารไม่ได้ดีเหมือนเก่า ยิ่งโดนด่าก็ยิ่งเครียด จนวันหนึ่งเกลือก็โผล่มาช่วยงาน ด้วยสถานะที่คิดกันแค่เพื่อนแล้ว ร้านก็กลับมาดูดีอีกครั้ง

วันหนึ่งมีลูกค้าสั่งกะเพราเข้ามาให้ไปส่งที่บ้านหลังร้านปิดแล้ว ปลาวาฬเห็นว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเลยขับรถไปส่งด้วยตนเอง เมื่อไปถึงบ้านก็เจอว่าเชฟโอบเป็นคนออกมารับ ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ แต่สุดท้าย ปลาวาฬก็เลือกก็จะกลับมาโดยไม่พูดอะไรเพราะความรู้สึกผิดต่อเชฟโอบก็ยังคงอยู่ วันรุ่งขึ้นหลังจากตั้งหลักได้แล้ว ปลาวาฬกลับไปหาเชฟโอบใหม่เพื่อจะขอโทษเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา แต่ก็พบว่าบ้านหลังนั้นไม่ใช่ของเชฟโอบ เชฟโอบแค่ปักหมุดมารับของเฉย ๆ และเชฟโอบก็หายตัวไปอีกครั้ง

หลังจากนั้นไม่นาน ข้างร้านของปลาวาฬก็มีร้านอาหารมาเปิดใหม่ชื่อว่า กะเพราร้านนี้ไม่มีถั่วฝักยาว (ของแท้) คนที่เป็นเจ้าของร้านก็คือเชฟโอบนั่นเอง แต่เชฟโอบกลับทำเหมือนไม่รู้จักกับปลาวาฬและเกลือมาก่อน และเปิดฉากเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันอย่างจริงจัง ระหว่างนั้นเมธัสก็ตามหาตัวเจเจจนพบ และมาตามจีบเจเจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน โดยสั่งกะเพราเยอะ ๆ บ้าง พาเพื่อนมาฉลองที่ร้านบ้าง จนทำให้สภาพในร้านวุ่นวายเพราะแรงป่วนจากเมธัส

พอคนรู้ว่าเชฟโอบตัวจริงกลับมาแล้ว ยอดขายของร้านปลาวาฬก็ตกลงเรื่อย ๆ ตรงกันข้ามกับร้านเชฟโอบที่ขายดีวันดีคืน ปลาวาฬเริ่มเห็นวี่แววก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ เพราะเงินที่ได้จากเมธัสกรุ๊ปก็เอามาลงทุนกับร้านหมดแล้ว จะเซ้งต่อก็คงยากเพราะคู่แข่งอยู่กำแพงติดกันขนาดนี้ สุดท้ายยอดขายก็ตกลงอย่างมากจนทั้งสามตัดสินใจปิดร้านชั่วคราวเพื่อหาทางออก เกลือเสนอให้เปลี่ยนไปทำร้านอาหารแนวอื่น เพราะถ้ายังคงทำผัดกะเพรายังไงก็ไม่มีวันชนะเชฟโอบได้แน่นอน

วันหนึ่งปลาวาฬกลับมาที่ร้านก็เจอกับเชฟโอบนั่งรออยู่ เชฟโอบไม่พูดอะไรแต่ลากปลาวาฬขึ้นไปชั้นบนของร้าน เชฟโอบทำขนมหวานให้ปลาวาฬกินอีกครั้ง ปลาวาฬรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนพิเศษและกำลังจะได้รับการให้อภัย เชฟโอบถามว่ามีอะไรจะบอกหรือเปล่า ปลาวาฬจึงขอโทษเรื่องที่ทำไปทั้งหมดและอธิบายเหตุผลให้เข้าใจ ความจริงถ้าเลือกได้ ปลาวาฬจะไม่ขายต่อให้เมธัสกรุ๊ป แต่สัญญาก็เซ็นไว้แน่นหนาปฏิเสธไม่ได้ จะบอกให้เชฟโอบเปลี่ยนคนสืบทอด เชฟโอบก็หายไปเสียก่อน            

ทั้งคู่จูบกัน เชฟโอบเฉลยว่าความจริงว่า เชฟโอบรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าคนที่สืบทอดน่าจะมาจากเมธัสทั้งหมด เพราะเชฟโอบไปท้าทายเมธัสไว้ว่าจะยอมขายให้ก็ต่อเมื่อคนที่มาซื้อมีจิตวิญญาณทางอาหารอย่างแท้จริง ซึ่งความจริงเชฟโอบตั้งใจจะขายอยู่แล้ว เพราะต้องนำเงินไปโปะหนี้ที่เคยกู้มาให้ข้าวสวยยืม เชฟโอบจึงไม่ได้โกรธที่ทุกอย่างเกิดขึ้น แต่เชฟโอบก็แค่รอวันที่จะได้เจอกันและคุยกันสักที แต่เมื่อเห็นปลาวาฬอยู่กับเกลือก็หึง เจอกันก็ไม่พูดกันจนนึกว่าเกลียดกันไปแล้ว เชฟโอบเลยมาเปิดร้านประชด แต่เมื่อเห็นหน้ากันก็รู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีใจ

เชฟโอบลงเอยกับปลาวาฬในที่สุด เชฟโอบยื่นข้อเสนอให้ปลาวาฬเซ้งร้านต่อให้ตนและให้ปลาวาฬเอาเงินไปเปิดฟิตเนสอย่างที่ฝัน ปลาวาฬบอกเชฟโอบว่าเปลี่ยนใจแล้วเพราะตัวเองอยากทำร้านอาหารต่อ  

มากกว่า ทั้งสองคนเลยตกลงที่จะยุบร้านรวมกันโดยมีเกลือมาร่วมทำงานด้วยเหมือนเดิม ส่วนเมธัสก็เดินหน้าจีบเจเจจนเจเจเริ่มใจอ่อน เมธัสใจปํ้าลงทุนเปิดร้านกายภาพบำบัดของตัวเองขึ้นมา เพื่อที่จะได้จ้างเจเจไว้ที่ร้านและได้เจอกันทุกวัน เจเจบอกว่าจะเอาเงินมาฟาดก็ทำให้ใจอ่อนไม่ได้ เมธัสบอกว่าก็ให้รอดูความดีกันไป เจเจจึงบอกว่าให้เวลาเมธัสพิสูจน์ตัวเองหนึ่งปี เพราะจะครบกำหนดช่วงเวลาผิดจรรยาบรรณระหว่างคนไข้กับผู้ให้การรักษา ทุกอย่างก็จบลงอย่างแฮปปี้ เอนดิ้ง ระหว่างเชฟโอบกับปลาวาฬ และเมธัสกับเจเจ